วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประโยค

ประโยค คือ คำหลายคำที่นำมาเรียงติดกันจนเกิดเป็นความหมายที่สมบูรณ์ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย ๒ ส่วนหลัก คือ ภาคประธาน และ ภาคแสดง โดยการประกอบคำใน ๑ ประโยค จะต้องมีคำนามเป็นภาคประธาน และ คำกริยาแท้อย่างน้อย ๑ ตัว จึงจะถือเป็นประโยคสมบูรณ์



เนื้อความของประโยค
๑. ประโยคบอกเล่า เช่น เมื่อวานผมไปเที่ยวมา
๒. ประโยคปฏิเสธ เช่น ผมไม่ได้เป็นแฟนกับเขา
๓. ประโยคคำถาม เช่น คุณทานอะไรอยู่
๔. ประโยคบังคับ ขอร้อง ชักชวน
    ๔.๑ บังคับ เช่น คุณต้องออกไปเดี๋ยวนี้
    ๔.๒ ขอร้อง เช่น กรุณาปิดไฟด้วยนะครับ
    ๔.๓ ชักชวน เช่น พรุ่งนี้ไปงานแนะแนวการศึกษาต่อด้วยกันไหม


รูปแบบการสร้างประโยค สามารถแบ่งออกได้เป็น ๓ ประเภท ดังนี้
๑. ประโยคความเดียว คือ ประโยคที่มีใจความสำคัญเพียงอย่างเดียว
๒. ประโยคความรวม คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว ๒ ประโยคขึ้นไปมารวมกัน โดยมีสันธานเชื่อม
     ๒.๑ ประโยคความรวมที่มีเนื้อความคล้อยตามกัน คือ ประโยคความรวมแต่ละประโยคมีเนื้อความคล้อยตามกันทุกประโยค
     ๒.๒ ประโยคความรวมที่มีเนื้อความขัดแย้งกัน คือ ประโยคความรวมแต่ละประโยคที่มีเนื้อความขัดแย้งกัน
     ๒.๓ ประโยคความรวมที่มีเนื้อความให้เลือก คือ ประโยคความรวมที่มีประโยคความเดียวมีเนื้อความให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
     ๒.๔ ประโยคความรวมที่มีเนื้อหาเป็นเหตุเป็นผลกัน คือ ประโยคความรวมที่ประโยคแรกเป็นเหตุ ประโยคหลังเป็นผล โดยมีสันธาน จึง เพราะ เพราะฉะนั้น เป็นตัวเชื่อม
๓. ประโยคความซ้อน คือ ประโยคที่มีใจความสำคัญเพียงใจความเดียว ประกอบด้วยประโยคความเดียวที่มีใจความสำคัญ เป็นประโยคหลัก และมีประโยคความเดียวที่มีใจความเป็นส่วนขยายส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคหลัก เป็นประโยคย่อยซ้อนอยู่ในประโยคหลัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น